เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 10 ก.ย. พ.ต.ท.สิทธิโชค บัวทอง สารวัตร(สอบสวน) สภ.คลองแงะ จ.สงขลา รับแจ้งเหตุรถยนต์ปิกอัพลักลอบขนใบกระท่อม ขับแหกด่านตรวจหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ แล้วเสียหลักตกถนนชนตนไม้ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ริมถนนสายคลองแงะ-วังปริง อ.สะเดา จ.สงขลา จึงประสานแพทย์เวร และศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค 9 ร่วมรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.นิยม สวัสดีรักษา รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.ธานินทร์ ชูเหล็ก รอง ผกก.สส. และตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.คลองแงะ

ที่เกิดเหตุบริเวณร่องน้ำริมถนน พบรถยนต์ปิกอัพอีซูซุ ตอนครึ่ง สีดำ หมายเลขทะเบียน บฉ 7155 นราธิวาส สภาพพังยับเยินทั้งคัน ภายในรถพบศพ นายมอมะซู อาวาเตะ อายุ 28 ปี บ้านอยู่ ต.หนองแรต อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เสียชีวิตคาเบาะนั่งคนขับ บริเวณศีรษะมีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืน นอกจากนั้นยังพบภรรยานายมอมะซู นั่งกอดลูกสาววัย 2 ขวบและ 3 ขวบอยู่ในสภาพตื่นตกใจ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยมีใบกระท่อมสดตกอยู่บนกระบะหลังและรับตัวรถจำนวนมาก และจากการตรวจสอบยังพบรอยกระสุนปืนยิงทะลุกระจกหลังเข้าผนักพิงศีรษะเบาะคนขับ 1 นัด บนถนนยังมีปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.ตกอยู่ 3 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนภรรยาผู้ตาย ให้การว่า สามีมีอาชีพกรีดยางอยู่ที่บ้านควนตานี อ.สะเดา จ.สงขลา ก่อนเกิดเหตุสามียืมรถของญาติพาตนและลูกกลับไปบ้านที่ จ.ปัตตานี เพื่อร่วมฉลองวันฮารีรายอกับครอบครัว โดยระหว่างทางมีเจ้าหน้าที่ไม่ทราบว่าเป็นหน่วยไหน ขับรถไล่ติดตามและใช้ปืนไล่ยิงทำให้สามีขับรถหลบหนีจนกระทั่งถูกยิงทำให้รถเสียหลักตกถนนพุ่งชนต้นไม้ และตนก็ไม่รู้ด้วยว่าในรถมีใบกระท่อมซุกซ่อนอยู่


พ.ต.ท.ธานินทร์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นแล้วทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายมอมะซู ไปยืมรถของญาติขับพาครอบครัวกลับไปฉลองวันฮารีรายอที่ จ.ปัตตานี โดยใช้เส้นทางสายคลองแงะ-นาทวี ก่อนขับลัดเลาะเส้นทางลัดจนกระทั่งไปถึงบ้านวังโต้ใต้ อ.นาทวี แล้วพบด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ จากนั้นย้อนกลับมาทางเดิมแล้วพบด่านตรวจสกัดของเจ้าหน้าที่อีกชุด ซึ่งผู้ตายได้ขับรถหลบหนี ทำให้เจ้าหน้าที่ขับรถไล่ติดตามจนกระทั่งมาถูกยิงเสียชีวิต โดยขณะนี้ทราบแล้วว่าผู้ที่ใช้ปืนยิงใส่รถ คือ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน หรือ อส.ประจำอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งได้ประสานไปที่อำเภอหาดใหญ่ ให้นำเจ้าหน้าที่อส.คนดังกล่าวมามอบตัวแล้ว


โดยเบื้องต้นจะแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาไว้ก่อน ส่วนจะเจตนาหรือไม่เจตนาซึ่งอาจยิงสกัดจับแล้วพลาดนั้น พนักงานสอบสวนจะเป็นผู้สอบปากคำ รวมทั้งผลการชันสูตรศพของนายมอมะซู จากแพทย์ร.พ.สงขลานครินทร์ มอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สำหรับภรรยาของผู้ตาย สอบสวนแล้วไม่พบว่ามีส่วนรู้เห็นเรื่องการลักลอบขนใบกระท่อม รวมทั้งยังไม่ทราบว่าตัวผู้ตายเองลักลอบขนใบกระท่อมด้วยหรือไม่ เนื่องจากรถคันที่ขับมาเป็นของญาติและใบกระท่อมถูกซุกซ่อนอยู่ตามช่องว่างต่างๆของตัวรถ ซึ่งตำรวจจะได้เรียกตัวญาติที่เป็นเจ้าของรถปิกอัพมาสอบปากคำด้วย เพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป

ทีมา ​: http://www.siamupdate.com